วันที่ 18 ตุลาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่เกิดเหตุ มีชายมาจอดรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีน้ำเงินขาว หมายเลขทะเบียน 6 กว 9448 กทม. ที่บนกลางสะพานภูมิพล 1 และกระโดดลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยาจมหายไป ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพวินาทีที่ชายคนดังกล่าว ขี่รถจักรยานยนต์มาจอด แล้วปีนราวสะพาน และกระโดดลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยาเอาไว้ได้ และจากการตรวจสอบที่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว พบเสื้อนักศึกษาสีขาว จำนวน 1 ตัว และกระเป๋าสตางค์ มีบัตรประจำตัวประชาชนชื่อ นายอนันต์ โต๊ะชาลี อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 146/1 หมู่.7 ต.นาสนุ่น อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ และบัตรประจำตัวนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม คณะวิทยาการจัดการ นิเทศศาสตร์แขนงวิชาวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และสื่อใหม่ รวมทั้งเอกสารบัตรอื่นๆ ภายในกระเป๋า และมีเงินเป็นแบงก์ 20 รวมจำนวน 80 บาท

จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือที่วางไว้ตรงจุดเกิดเหตุ ตรวจสอบพบเฟซบุ๊กที่ชื่อ ตรงกับบัตรประชาชนซึ่งเป็นภาษาอังกฤษ มีการโพสต์ข้อความล่าสุดเมื่อ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมาก่อนเกิดเหตุ เขียนข้อความเชิงตัดพ้อชีวิตว่า ไม่มีเหี้ยอะไรโอเคทั้งนั้นแหละ ไม่เคยมีตั้งนานแล้ว จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้หาข้อมูล เบอร์โทรศัพท์ญาติ เพื่อติดต่อสอบถาม
ซึ่งทราบต่อมาว่า ปัจจุบันครอบครัวของนายอนันต์ โต๊ะชาลี ได้ย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพฯ โดยบิดามารดามีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง และทำเฟอร์นิเจอร์ จึงเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 146/1 หมู่ 7 บ้านกุดตาแร้ว ต.นาสนุ่น อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนายอนันต์ โต๊ะชาลี พบนางตุ่น ทาแดง อายุ 62 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นยาย นั่งรอฟังข่าวอยู่กับญาติๆและเพื่อนบ้าน พร้อมกล่าวว่า ตนเลี้ยงดูนายอนันต์ โต๊ะชาลี หรือน้องอ๊อฟมาตั้งแต่อายุได้ 3 เดือน

เนื่องจากแม่และพ่อของน้องอ๊อพซึ่งเป็นลูกสาวและลูกเขยต้องไปทำงานรับเหมาก่อสร้างต่างจังหวัด น้องอ๊อฟเป็นเด็กดีตั้งใจเรียนหนังสือ เหล้าไม่กินบุหรี่ไม่สูบ ไม่เที่ยวเตร่ เมื่อตอนเรียนมัธยมก็เรียนอยู่ที่นี่ไม่เคยห่างกัน พึ่งจะมาห่างกันช่วงที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ แต่ก็โทรศัพท์คุยกันทุกเย็นหลังเลิกงาน และไปเรียนภาคค่ำ อ๊อฟจะบอกยายว่ากำลังวิ่งออกกำลังกาย อ๊อพตั้งใจเรียนสถาปัตย์อยากเป็นสถาปนิก เวลาอยู่กับยายอ๊อฟจะพูดว่าถ้าอ๊อฟเรียนจบได้เป็นสถาปนิก จะเลี้ยงยายให้อยู่อย่างสุขสบาย จะสร้างตึกสูงหลายชั้น เขาชอบพูดพร่ำพรรณนาให้ยายฟัง ยายก็ตอบว่ายายจะรอ เขาทำแบบบ้านส่งอาจารย์ก็เก็บมาให้ยายดู

แต่ปัญหาก็คืออ๊อฟเป็นคนที่เวลานอนหลับจะหลับลึก ต้องมีคนคอยปลุก ถ้าไม่มีคนปลุกก็จะไม่ตื่น ทำให้มีปัญหาด้านการเรียน เช่น ไปเรียนไม่ทัน หรือ ส่งงานอาจารย์ไม่ทัน ทำให้ไม่ได้เรียนตามที่ตัวเองอยากจะเรียน และอยากจะเป็น จนทำให้อ๊อฟเป็นโรคซึมเศร้า ถ้าหากว่าอ๊อฟกระโดดน้ำฆ่าตัวตายจริง ก็น่าจะเกิดจากโรคซึมเศร้า ที่กำลังรักษาอยู่ เมื่อวานนี้ก็ได้ยินแม่เขาโทรศัพท์เตือนว่า อย่าลืมกินยานะ วันนี้มีคนโทรมาบอกว่าอ๊อฟกระโดดน้ำตาย ทำให้ตนเองช็อกจนญาติต้องพาไปฉีดยาบำรุงหัวใจ ขณะนี้ก็ได้แต่นั่งรอฟังข่าวหลานชาย และขอให้เจ้าพ่อศรีเทพช่วยปกปักษ์รักษา และขอให้พบน้องอ๊อฟโดยเร็ว
เรียบเรียงโดย อารีย์ สีแก้ว ทีมข่าวสยามนิวส์ จ.เพชรบูรณ์