วันที่ 17 ตุลาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลายเป็นเรื่องราวที่ถูกวิพากษ์วิจารณอย่างหนัก หลังหญิงสาวรายหนึ่งโพสต์หางาน แต่กลับถูกสาวอ้างจบป.โท ต่อว่าให้ไปขอทาน ไปขายตัว
โดยสาวรายดังกล่าวเปิดเผยว่า ตนเองอาศัยอยู่กับครอบครัวแฟนหนุ่มที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ต่อมาตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน แต่ก็แท้งลูกไป หลังจากนั้นทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง แต่ก็อยากหางานทำเพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาครอบครัวแฟนหนุ่ม จึงได้เฟซบุ๊กของตน ที่ชื่อว่า มะนอย จัง โพสต์หางานในกลุ่มหางานกลุ่มหนึ่ง เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่า หางานทำค่ะ ของานไม่หนัก แม่บ้าน หรือ ขายของ ขอไม่ไกลมากค่ะ ซึ่งเหตุที่ของานไม่หนัก เพราะหมอสั่งห้ามทำงานหนักจากการแท้งลูกและร่างกายยังไม่แข็งแรงตามปกติ
หลังจากโพสต์หางาน ปรากฏว่าได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่ง มีรูปโปรไฟล์เป็นหญิงสาวหน้าตาดี เข้ามาแสดงความเห็นต่อว่าตนเองอย่างรุนแรง ทั้งที่ไม่เคยรู้จักหรือมีปัญหาอะไรกันมาก่อน โดยบอกให้ไปขอทานเพราะเป็นงานสบายกว่างานแม่บ้าน หลังจากนั้นได้มีสมาชิกในกลุ่มเข้ามาต่อว่า และขอร้องให้ใช้ถ้อยคำสุภาพ แต่หญิงสาวคนดังกล่าวกลับไม่ยอมหยุด ตอบโต้กับสมาชิกกลุ่มอีกหลายคน แม้ตนเองจะขอร้องว่าให้เกียรติกันบ้าง แต่ก็ไม่มีท่าทีจะเข้าใจ ทั้งยังยกเรื่องการศึกษา อ้างตัวจบปริญญาโท 2 ใบ มาต่อว่าอย่างดุเดือดและถ้อยคำรุนแรง ทั้ง ดูถูกว่าคนจนดราม่าก็ต้องจนต่อไป เอาแต่เลือกงานก็จนไปจนตาย หรือ แม้กระทั่งไล่ให้ตนเองไปขายตัว ซึ่งตนมองว่าการดูถูกเหยียดหยามคนอื่นเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น ไม่ว่าจะในชีวิตจริงหรือในสังคมออนไลน์
ภาพจาก workpointnews
น.ส.จุฑามาศ บอกอีกว่าแม้ตนจะยากจน ทำงานเก็บเห็ด เก็บของป่ามาขาย แต่ก็เป็นคนเหมือนกัน จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ เพราะต้องการให้เป็นตัวอย่างในสังคม ให้เห็นว่า ไม่ว่าใครจะรวยหรือจะจบการศึกษาสูงก็ไม่มีสิทธิ์ดูถูกคนอื่นที่ด้อยโอกาสกว่า ขณะที่นายพันธนะ ไชยช่อฟ้า นักกิจกรรมสังคมในจังหวัดเชียงใหม่ ที่เข้ามาช่วยเหลือ น.ส.จุฑามาศ เพราะมองว่า การบูลลี่ไม่ควรเกิดขึ้นกับใครก็ตามในสังคม โดยเฉพาะกับการดูถูกมองคนอื่นต่ำกว่าตัวเอง เมื่อเห็นเรื่องนี้จึงยื่นมือเข้าช่วยเหลือ นอกจากข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา หากเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก็จะแจ้งเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา